ไม่เป็นตำรวจไม่รู้หรอก

สวัสดีครับ วันนี้ผมมาเตือนภัยเรื่องแก็งค์ CallCenter ที่หลอกลวงคนไทยมานานมาก ปัจจุบันนี้ก็ยังหลอกลวงอยู่ครับ โดยผมจะพูดถึงวิธีการหลอก และวิธีการป้องกันนะครับ แก็งCallCenter คืออะไร คือกลุ่มคนที่ใช้โทรศัพท์ในการหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายผ่านตู้ATM ด้วยวิธีการต่างๆกันไป  โดยทำทุกวิธีให้เหยื่อโอนเงินไปให้ได้... วิธีการ คนร้ายปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ ไปร์ษณี สรรพากร ดีเอสไอ ปปส ตำรวจ ธนาคาร หรือหน่วยงานต่างๆ  โทรเข้ามือถือของเหยื่อ พูดคุยให้เหยื่อหลงเชื่อว่า 1.เหยื่อมีเงินในบัญชีที่อาจจะผิดกฏหมายต้องโอนเงินมาให้ธนาคารตรวจสอบ และจะได้รับคืนภายหลัง 2.เหยื่อจะได้รับเงินภาษีคืนก้อนใหญ่ให้โอนเงินมาก่อนเพื่อจะรับเงินภาษีคืนภายหลัง 3.เหยื่อจะได้รับเงินก้อนใหญ่แต่ต้องไปกดรหัสรับเงินที่ตู้เอทีเอ็ม(หลอกให้โอนเงินโดยไม่รู้ตัวตัว) การโอนเงินให้คนร้าย เหยื่อจะต้องการโอนผ่านตู้เอทีเอ็ม เพราะจะไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารคอยเตือน ดังนั้นถ้าถูกชวนให้ไปตู้เอทีเอ็มเมื่อใด เมื่อนั้นคือหลอกลวงแน่นอนครับ เมื่อโอนเงินเสร็จคนร้ายก็รีบไปถอนเงินจากบัญชี กว่าเหยื่อจะรู้ตัว เงินก็หายไปแล้วครับ.. ด

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องมาเตือนภัยทางเทคโนโลยี ในรูปแบบที่ชาร์ตไฟสาธารณะครับ ในปัจจุบัน เชื่อว่าหลายๆคน ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสมาร์ทโฟนกันเกือบหมดแล้ว และปัญหาของสมาร์ทโฟนที่เป็นกันหลายๆท่านก็คือแบตเตอรี่หมดไวมาก  ทำให้ต้องพกแบตเตอรี่สำรองเอาไว้แทบทุกคน.. แต่บางครั้งเราก็มีโอกาสลืมหรือไม่ได้พกไป เราจึงมองหาที่ชาร์ตไฟสาธารณะ เมื่อเวลาแบตหมด.. มิจฉาชีพก็อาศัยใช้ช่องทางเหล่านี้ในการโจรกรรมข้อมูลของเรา โดยการ "Juice Jacking " หรือ "การขโมยข้อมูลผ่านที่ชาร์ตไฟ" ครับ โดยวิธีการคือ การแอบเอาแผงวงจร ที่ลงโปรแกรมดูดข้อมูลเครื่อง ไปซ่อนในที่ชาร์ตไฟสาธารณะตามจุดต่างๆ เอามาในรูปแบบแผงครอบไฟ หรือเป็นสายชาร์ตยื่นออกมาให้ต่อเลยก็ได้ครับ และเมื่อเราเผลอไปต่อสายดังกล่าว เห็นว่าชาร์ตไฟเข้าก็สบายใจ  ส่วนโปรแกรมก็จะเริ่มทำการดูดข้อมูลของเราทันทีโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยครับ... ถ้าข้อมูลที่คนร้ายได้ไป เป็นข้อมูลสำคัญของเรา ข้อมูลทางการเงิน รหัสผ่านต่างๆ หรือรูปส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครเห็น โดนขโมยไป ต้องเดือดร้อนแน่ๆเลยครับ.. วิธีป้องกันทำได้ไม่ยากครับ 1.พก power bank หร