ความในใจของลูกผู้ชายคนนึง

สวัสดีครับ
ผมขอแนะนำตัวอีกครั้ง นะครับ ผมชื่อร้อยตำรวจเอกวสุเทพ ใจอินทร์ ชื่อเล่นไท
เป็นคนเชียงใหม่ จบจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 44 และโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่60 ครับ

ผมเข้ามารับราชการตำรวจ เพราะผมมีความไฝ่ฝันว่าอยากเป็นตำรวจ อยากเป็นฮีโร่ คอยปกป้องประชาชนจากเหล่าร้ายครับ

การเรียนในโรงเรียนเตรียมทหาร และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่นั่นก็ได้ปลูกฝังอุดมการณ์ให้ผมเอาไว้มากมาย และผมในตอนเรียนที่สถาบันทั้งสองแห่ง ก็ได้เป็นนักเรียนบังคับบัญชาที่เป็นคนปลูกฝังรุ่นน้องเรื่องอุดมการณ์มาเองด้วย

แต่เมื่อพอจบออกมาผมก็เจอเรื่องอะไรหลายๆอย่างที่มันขัดกับอุดมการณ์ในตอนเรียนอย่างสิ้นเชิง แรกๆผมเองก็รับไม่ได้ และเครียดมาโดยตลอด
จนได้คำแนะนำจากรุ่นพี่ๆ หรือคนที่หวังดีว่า ให้ผมตามน้ำไปก่อน เมื่อวันนึงเป็นใหญ่ค่อยปรับเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้น...

ในการเรื่องการดำรงชีวิต ผมเองก็เหมือนผู้ชายคนอื่น เคยรักสนุก เคยเที่ยวเตร่ เคยเจ้าชู้ กินเหล้าเมายา เรียกได้ว่าศิล5 นี่ทำไม่ได้ซักข้อเลยก็ว่าได้...  แต่วันนึงผมหยุดคิด และคิดได้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่ใช่ความสุขของผมอย่างแท้จริง ผมได้ลองผิดลองถูกแล้ว ผมก็เลยเลือกที่จะหยุดทำสิ่งเหล่านั้น นับจากวันที่ผมคิดได้ ตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วครับ..   ผมยกเครดิตให้ภรรยาของผมนะครับ ผมเจอเธอแล้วทำให้ผมมั่นใจว่าผมจะเป็นคนดีไปเพื่อใคร... ต้องขอบคุณเธอครับ

วันนี้ ผมรับราชการจนมาถึงตำแหน่งสารวัตร ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งระดับผู้บริหารชั้นต้นในอาชีพตำรวจ หน้างานของผมคือฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ รวมไปถึงรับผิดชอบศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ของตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร.. บอกได้เลยว่าในปัจจุบันนี้ หน้าที่ในปัจจุบันนี้ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์นอกระบบแต่อย่างใด มีแต่งานกับเงินเดือน บวกค่าเบี้ยเลี้ยงที่แปร งบมาให้ ถามว่าเงินพอใช้มั้ย พอใช้ครับ เพราะผมถือว่ามีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย ไม่เบียดเบียนใคร.... ทุกวันนี้ทำงานกับลูกน้องจำนวน ประมาณ 20 คน ทุกคนก็เป็นตำรวจที่สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งผลประโยชน์นอกกฏหมายแต่อย่างใดเหมือนผม...

จนทำให้ผมคิดว่า ตำรวจที่ไม่รับผลประโยชน์นอกกฏหมายก็อยู่ได้นี่นา ไม่เห็นเค้าอ้างความจำเป็นต่างๆนาๆ เลี้ยงดูครอบครัวบ้าง ใช้เงินมาทำงานบ้าง..  ลูกน้องของผมไม่เห็นมีใครต้องใช้เงินเหล่านั้นมาในการทำงานและดำรงชีพเลย...

ผมจึงประกาศตัวในเฟสบุ๊คของผมว่าผมมีความฝัน ดังนี้

[quote]ผมมีความฝัน ผมจะเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจ ผมจะดึงลูกน้อง ดึงรุ่นน้องที่มีอุดมการณ์มาทำงานกับผม พื้นที่รับผิดชอบของผมจะไม่มีบ่อนการพนัน หวยใต้ดิน ยาเสพติด วัยรุนมั่วสุม จะไม่มีการเก็บส่วยจากผู้ประกอบการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงสี รถขนส่ง ร้านเหล้า ร้านเกม หรือร้านอะไร ใครผิดก็ว่าตามผิด.. ผมจะพาตำรวจออกไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบของประชาชน คอยช่วยเหลือประชาชน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนในพื้นที่เป็นหนึ่งเดียวกับตำรวจ..

ผมดูเป็นตัวตลกในวงการตำรวจมั้ยครับ ที่คิดแบบนี้?.. แต่ผมไม่สนใจและผมจะทำมันให้ได้ในซักวัน
I Have a Dream... — feeling hopeful at ตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร.[/quote]

โดยการโพสต์ครั้งใน ในใจที่ผมคิด ผมอยากสร้างความฝัน อยากให้รุ่นน้องที่ติดตามผม ได้มีความฝันเดียวกับผม และทำมันให้สำเร็จไปด้วยกัน..


หลังจากนั้นเป็นเรื่องเลยครับ..    เรื่องของผมเป็นที่โจษจันในวงการของตำรวจ  เพื่อนบางคนถึงกับขุดเอาเรื่องไม่ดีของผมในอดีต มาตอกย้ำผม
หาว่าผมสร้างภาพให้ตัวเองดูเป็นคนดี โดยการเอาเรื่องที่ไม่ดีของตำรวจมาให้ประชาชนด่า...  ทำให้ประชาชนมองตำรวจในภาพลบ แล้วเชิดชูว่าตัวเองเป็นคนดี ทั้งที่เมื่อก่อนตอนผมเป็นรองสารวัตรก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเพื่อนๆ รับผลประโยชน์นอกระบบ(ตามน้ำ) ใช้ช่องว่างของกฏหมายรับเงินประจำตำแหน่งที่ไม่ควรได้  เจ้าชู้หลายใจ มีผู้หญิงหลายคน บางคนถึงกับว่าผมเกาะผู้หญิงกินเลย ตอนนี้ทำมาบอกรักแฟน รักภรรยา ในเฟสบุ๊ค   อวดดี อวดรวย พูดได้ซิว่าจะเป้นตำรวจดีได้เพราะเมียรวย บลาๆๆๆ

บางคนบอกถ้าจะทำดี ไม่ต้องมาบอกหรอกว่าจะทำดี ดีเดี๋ยวก็มีคนเอามาพูดเอง
บางคนบอก คนทำดีมีตั้งเยอะ แต่เค้าไม่เอามาประกาศปาวๆ เหมือนผม   ไม่สร้างภาพให้ตัวเองดูดีเหมือนผม
บางคนบอกผมโลกแคบ มองโลกสวยงามเกินไปรึเปล่า
บางคนบอกถึงจะรับเงินนอกระบบ แต่ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ทำให้เพื่อนเดือดร้อนก็พอรึเปล่า
หลายๆ ความเห็น จากเพื่อนๆ พรุ่งพรูเข้ามาในสมองผม..

ผมเหมือนคนล้มทั้งยืน กินไม่ได้นอนไม่หลับ อุดมการณ์ที่พูดออกมา มันทำให้เพื่อนคิดกับผมได้ขนาดนี้เลยหรือนี่
แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ผมได้พบเพื่อนแท้ และเพื่อนร่วมอุดมการณ์เยอะขึ้น
เค้าเหล่านั้นส่งข้อความหลังไมค์มาหาผม บอกเห็นด้วยกับแนวคิดของผม เพื่อนของผมเหล่านี้ เค้าเก็บตัวเงียบๆ ไม่เคยออกมาประกาศอุดมการณ์แบบผม แต่เก็บไว้ในใจ เพราะสังคมของผม ใครออกมาบอกเพื่อนๆ ว่ากูเหี้ยนะ กูรับผลประโยชน์ กูมีความสุข เพื่อนกูมีความสุข ลูกน้องมีความสุข เพื่อนๆก็จะไม่เกลียดคนๆนั้น.. แต่ใครออกมาบอกว่ากูจะทำดีนะ กูจะเลิกแล้วสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ก็จะโดนหาว่าสร้างภาพ เป็นที่รังเกียจ และโดนวางยา นำเรื่องไม่ดีในอดีตของมาแฉ เพื่อดิสเครดิต ว่าคนๆนั้นมันดีไม่ได้หรอก เพราะสิ่งที่มันทำในอดีตมันสวนทางกับสิ่งที่บอกว่าจะทำ..

คำพูดที่เคยมีคนบอกให้ผม "ตามน้ำไป" วันนึงถ้าเราเป็นใหญ่เราก็แก้ไขสิ่งเหล่านั้นที่เราเห็นว่ามันไม่ดี มันล้มละลายไปในพริบตา...
เพราะกว่าจะรอให้ถึงวันนั้น ผมคงมีคนขุดคุ้ย อดีตมากมาย.. ตอนมันเป็นสารวัตรมันก็รับผลประโยชน์ ไม่เห็นมันขัดผู้กำกับเลย.. ตอนมันเป็นผู้กำกับมันก็ส่งเงินให้ผุ้การ ตอนมันเป็นผู้การมันก็รับผลประโยชน์จากผู้กำกับ..  แล้วตอนนี้เป็นใหญ๋ทำมาเป็นลืมว่าในอดีตตัวเองทำอะไรไว้ แล้วสร้างภาพให้เป็นคนดีอยู๋ได้... มันเลวจริงๆ   แค่คิด ก็ปวดหัวแล้วครับ

สังคมจะดีไม่ดี ขึ้นอยู่กับตำรวจ ยกตัวอย่างเพื่อนที่บอกว่า เค้ารับผลประโยชน์ สังคมไม่เดือดร้อน แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว.. ผมอยากถามว่าเค้าไม่เดือนร้อนตรงไหน   รับส่วยบ่อนการพนัน ส่วยหวยใต้ดิน ถามว่าผู้ร้ายที่ตามจับกันส่วนใหญ่มันก็นำเงินมาเล่นสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ รับส่วยสถานบริการทั้งร้านเกมส์ ร้านเหล้า เยาวชนที่ออกมากระทำผิดก็เพราะนำเงินไปใช้บริการร้านเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ.. รับส่วยรถบรรทุก รถสิบล้อ  ถนนเมืองไทยที่มันพังทุกวันนี้ ก็เพราะรถพวกนี้บรรทุกน้ำหนักเกินไม่ใช่เหรอ....   ยังมีอีกหลายๆเรื่องทีผมเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง  และสิ่งเหล่านั้นมันคือความเดือดร้อนของประชาชน  ตำรวจที่บอกรับผลประโยชน์แล้วสังคมไม่เดือดร้อน เค้าลืมเปิดใจ หรือเปล่า สิ่งที่ผมออกมาพูด ไม่ใช่ว่าเพราะผมเองเลยทำให้ประชาชนเค้ามองตำรวจในภาพไม่ดี   ประชาชนเค้ารู้ดีกว่าตำรวจอีกครับ  ว่าตำรวจเราทุกวันนี้ทำอะไร...


ตัวผมเองหลังจากเจอเหตุการณ์ในครั้งนี้ มาสองสามวันแล้ว เครียดมาก นอนไม่หลับ กินข้าวไม่ลง แต่ตอนนี้ผมคิดได้แล้ว
ผมเองจะเลิกบอกว่าตัวเองเป็นคนดีแล้ว แต่ผมจะบอกตัวเองเสมอว่าเราต้องทำดีนะ เป็นตำรวจที่ดีให้ได้
ผมจะระวังตัวในเรื่องผลประโยชน์ให้มากที่สุด จะออกห่างจากมันให้ได้มากที่สุด
ผมจะสนับสนุนคนดี ตำรวจดี ผมจะตามหาพวกเค้าเหล่านั้นและจะเป็นแรงผลักดันให้เค้าสามารถเชิดหน้าชูตาได้
เพราะพวกเค้าเหล่านั้น จะเป็นคนที่ช่วยกันทำให้อุดมการณ์ของผมสำเร็จ...

อุดมการณ์ที่ว่า  ตำรวจไทยจะเป็นที่พึ่งและเป็นที่รักของสุจริตชนจริงๆ
 สุจริตชนต้องรักตำรวจ ทุจริตชนต้องเกลียดตำรวจ.... ไม่ใช่ทุจริตชนเป็นพวกตำรวจ และสุจริตชนต้องคบตำรวจเพื่อป้องกันการโดนตำรวจรังแก..

เรื่องราวของผมที่เอามาบอกในที่แห่งนี้ เพราะผมคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของผม
เป็นสังคมออนไลน์แห่งเดียวที่ผมกล้าที่จะบอกความรู้สึกจริงๆ ของตัวผม..  เพราะผมก็คอยเฝ้ามองดูว่าผมจะไปได้ถึงไหนในวงการตำรวจแห่งนี้...

หากเคยทำให้ท่านใดไม่สบายใจด้วยการอวดดี อวดอ้างในเรื่องต่างๆ ผมขออภัยมาใน ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ผมยินดีรับฟังคำตักเตือนทุกอย่าง

ขอบคุณในไมตรีและกำลังใจที่มีให้กันเสมอมาครับ
สารวัตรเป็นไท

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

"ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ จักประดับดอกไม้ หอมยวลชวนจิตไซร้ ไป่มี"

อีกก้าวของความสำเร็จในชีวิตตำรวจ กับตำแหน่ง"สารวัตร"